TH I EN
พิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศฯ แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง

พิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง

วันอาทิตย์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาให้ สมเด็จพระธีรญาณมุนี ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร แก่พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร และเลื่อนชั้น ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง จำนวน ๕๕๖ รูป ณ วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

การนี้ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในพื้นที่หนกลาง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมปฏิบัติงานพิธีฯ พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธี เป็นจำนวนมาก

โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี เชิญพระสัมโมทนียกถา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร และเลื่อนชั้นในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ความว่า

     “ตามที่ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสัญญาบัตรพัดยศ ตั้งท่านทั้งหลายเป็นพระครูสัญญาบัตร นั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นเกียรติยศอันหาที่สุดมิได้ ขอท่านพระครูจงพร้อมเพรียงกัน ตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายพระพรให้สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก ทรงเจริญพระชนมสุขสิริสวัสดิ์ทุกประการ และขอท่านจงตั้งใจรับภารธุระการคณะสงฆ์อย่างเต็มสติกำลังความสามารถ เพื่อฉลองพระราชศรัทธา ให้สมกับที่ได้ทรงพระมหากรุณาพระราชทานสมณศักดิ์ในครั้งนี้

     ขอให้ท่านผู้ได้รับสมณศักดิ์ พิจารณาถึงถ้อยคำสมณศักดิ์ของท่านที่เรียกว่า "พระครู" ย่อมพบคำสองคำที่สำคัญยิ่งสำหรับเตือนใจ กล่าวคือ "พระ" หมายถึง "ผู้ประเสริฐ" และ "ครู" หมายถึง "ผู้มีความหนักแน่น, ผู้ควรแก่การเคารพของศิษย์ และผู้อบรมสั่งสอน"

     ด้วยเหตุฉะนี้ หากท่านยังไม่สามารถครองตนให้มั่นคงด้วยศีลาจารวัตรไม่พากเพียรขัดเกลาตนให้เป็นผู้ประเสริฐด้วยคุณธรรม ท่านย่อมไม่ได้ชื่อว่าเป็น "พระ" และไม่หมั่นอุตสาหะพัฒนาตนให้มีสติปัญญารอบรู้และรอบคอบในอันที่จะเป็นผู้มีความหนักแน่น, ผู้ควรแก่การเคารพของศิษย์ และผู้อบรมสั่งสอนมหาชนทั่วไป ท่านย่อมไม่ได้ชื่อว่าเป็น "ครู" อันรับเข้ามาเป็นสมมติตามที่ได้ครองอยู่ด้วยประการทั้งปวง

     ในทางกลับกัน หากท่านมั่นคงในพระธรรมวินัยอยู่ทุกเมื่อ อบรมเจริญ สติปัญญาให้แกล้วกล้าทั้งคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ไม่ลดละย่อท้อต่อปัญหา และอุปสรรคในการบริหารงาน พร้อมปฏิบัติสนองงานคณะสงฆ์ด้วยอิทธิบาทธรรมสมตามหน้าที่รับผิดชอบ ดำรงตนเป็นที่พึ่งอันร่มเย็นของเหล่าสหธรรมิก ตลอดทั่วถึงบรรดามหาชนทั่วไป เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือ เมื่อนั้น ท่านย่อมได้ชื่อว่าเป็นท่านพระครู ผู้ควรแก่สมณศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานอย่างแท้จริง

     ในนามคณะสงฆ์ ขอแสดงมุทิตาจิตถวายแด่พระครูสัญญาบัตรทุกรูป ขอถวายกำลังใจให้มีสรรพกำลังพรั่งพร้อม ในอันที่จะประกอบกรณียกิจ เพื่อจรรโลงพระบวรพุทธศาสนาและประเทศชาติ ให้รุ่งเรืองวัฒนาสถาวร กับทั้งขออำนวยพรให้ทุกท่าน จงเจริญงอกงามในพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นสืบไป เทอญ."


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

 
 
 
 

Website Policy | Privacy Policy | Security Policy | Disclaimer | ข้อกำหนดการใช้ Cookies รองรับการทำงานบน Internet Explorer v.11+, Microsoft Edge, Firefox v.47.0+, Chrome v.51+

จำนวนการเข้าชม : 30,288,384